ราคาน้ำมันร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันศุกร์เนื่องจากนักลงทุนถอน Position จากข้อมูลการนำเข้าน้ำมันดิบของญี่ปุ่นที่อ่อนแอและความกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงในอินเดีย
น้ำมันดิบของสหรัฐและเบรนต์ Benchmark โลกทำผลงานรายวันที่แย่ที่สุดในรอบกว่าสามสัปดาห์ แม้ทำกำไรในรายเดือนที่เกือบ 6% และ 8% ตามลำดับจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐและจีน และหลายประเทศที่ reopening
น้ำมันดิบเบรนท์ตกลงที่ 67.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.31 ดอลลาร์หรือ 1.9% ในวันสุดท้ายของการซื้อขายสำหรับสัญญาเดือน มิ.ย. น้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐในเดือน มิ.ย. ตกลงที่ 63.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.43 ดอลลาร์หรือ 2.2% ทั้งนี้ ทั้งสองยังคงเพิ่มขึ้น 1.7% และ 2.3% ตามลำดับ
อินเดียกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยโรงพยาบาลและห้องเก็บศพที่เต็มไปด้วยผู้ป่วย โดยจำนวนสะสมทะลุ 18 ล้านคนแล้วในวันพฤหัสบดี ขณะที่ สหรัฐเตรียมจำกัดการเกินทางออกจากอินเดีย ญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบรายใหญ่อีกรายนำเข้าน้ำมันดิบลดลง 25% ในเดือน มี.ค. จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 2.34 ล้านบาร์เรลต่อวันตามตัวเลขของรัฐบาล ขณะที่ กิจกรรมการผลิตในโรงงานยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ต้นปี 2561
ปริมาณการผลิตน้ำมันของโอเปกเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย. เนื่องจากอุปทานจากอิหร่านมากขึ้นซึ่งสวนทางกับสนธิสัญญาของกลุ่มพันธมิตร
การสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าเบรนต์จะเฉลี่ย 64.17 ดอลลาร์ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจากฉันทามติของเดือนที่แล้วที่ 63.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและค่าเฉลี่ย 62.30 ดอลลาร์สำหรับเกณฑ์มาตรฐานจนถึงปีนี้
แหล่งข่าว India demand fears, weak Japan crude imports knock oil prices โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
