เงินท่องเที่ยวท้ายปีวูบ ฉุดรายได้กลุ่มฟื้นยาก

Jettarin.Su

Moderator
11.jpg

ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ (31 ธ.ค. 2563- 3 ม.ค. 2564) มีการระบาดของโควิด -19 เป็นรอบใหม่สำหรับประเทศไทย
โดยตามการคาดการณ์ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วันหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน ระหว่าง 31 ธ.ค.2563-3 ม.ค.2564 มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางภายในประเทศ 2.75 ล้านคน-ครั้ง มีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่กว่า 10,742 ล้านบาท มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศ 37% เปรียบเทียบกับช่วงปีใหม่ 2563 ( 28 ธ.ค. 2562-1 ม.ค. 2563) พบว่าตัวเลขเม็ดเงินสะพัดหายไปถึง 10,000 ล้านบาท มีปัจจัยสำคัญมาจากการไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างมีนัยสำคัญ

ช่วงดังกล่าวมีจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นไทยเที่ยวไทย 3.16 ล้านคน/ครั้ง มีต่างชาติท่องเที่ยวไทย 6.9 แสนคน ทำให้เกิดเม็ดเงิน 23,800 ล้านบาท แบ่งเป็น จากคนไทยในประเทศ 11,800 อีก 12000 ล้านบาท จากต่างประเทศ

ทิศทางเดียวกันที่หลายหน่วยงานได้คาดการณ์ช่วงปีใหม่ 2564 คาดมีผู้โดยสารใช้บริการลดลง 30% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่าคนกรุงเทพฯ 42.5% เลือกฉลองปีใหม่ในกรุงเทพฯ แทนการออกไปท่องเที่ยว หรือ AOT คาดสนามบินสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารในประเทศเดินทางหยุดยาวปีใหม่รวม 12 วัน 4.2 แสนคน เพิ่มจากปีก่อน 10.57% มีเที่ยวบินรวม 3,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 27%

อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวยังไม่เพียงพอชดเชยที่หายไปทั้งปี 2563 ได้ จากช่วงที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยในช่วงเดือนตุลาคม ยังต่ำกว่าในช่วงเดียวกันปีก่อนหน้าถึง-34.5%YOY(หดตัวน้อยลงจาก-38.1%YOYในไตรมาส 3)

ขณะที่ รายได้ที่มาจากนักท่องเที่ยวคนไทยก็ต่ำกว่าอยู่ถึง-49.2%YOY(หดตัวน้อยลงจาก-57.2%YOYในไตรมาส 3) ซึ่งการที่รายได้มีการหดตัวมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวนั้นหมายความว่านอกจากคนไทยจะเดินทางท่องเที่ยวน้อยลงแล้ว ยังใช้จ่ายต่อคนเฉลี่ยลดลงอีกด้วยถือเป็นการสะดุดลงของแนวโน้มการขยายตัวของการท่องเที่ยวโดยคนไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา(ปี 2558-2562)

มุมมองของการลงทุนในหุ้นท่องเที่ยว บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) แนะนํา ขายทํากําไร และซื้อสัญญาขาลง (short) ระยะสั้นในหุ้นโรงแรมและการท่องเที่ยวหลังมีข่าวการพัฒนา มีประสิทธิภาพกว่า 90% และคาดว่าจะผลิตได้ 50 ล้านโดสในปีนี้และ 1,300 ล้านโดสใน ปีหน้า ด้วยผลการดําเนินงานไตรมาส 3 ปี 2563 ออกมาส่วนใหญ่ยังคงขาดทุนมากกว่าที่ตลาดคาดไม่ว่าจะเป็น CENTEL MINT ซึ่งทำให้เห็นว่าอุตสาหกรรมยังประสบ ความยากลําบากอยู่ ในขณะที่นักท่องเที่ยวยังเข้ามาได้น้อยมากในช่วงนี้
บวกกับการกลับมาระบาดรอบใหม่ทำให้ได้รับผลกระทบด้านการลงทุนต่อราคาหุ้น เมื่อประเมินจากราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐาน จึงแนะนํา ขายทํา กําไร AOT CENTEL ERW MINT โดยมีราคาเป้าหมาย 48 บาท, 22.00 บาท, 3.00 บาทและ 20.00 บาท ตามลำดับ

แหล่งข่าว เงินท่องเที่ยวท้ายปีวูบ ฉุดรายได้กลุ่มฟื้นยาก, Bangkokbiznews, 29 ธ.ค. 2563
 

Attachments

Members online

No members online now.

Forum statistics

Threads
12,121
Messages
12,376
Members
319
Latest member
SEO01

สนับสนุนโดย

Top