เมื่อเดือนที่แล้ว การอภิปรายกลายเป็นหัวข้อข่าวในสหราชอาณาจักรเมื่อมีการเผยแพร่บทวิจารณ์ The National Food Strategy ซึ่งจัดทำโดย Henry Dimbleby พบว่า อาหารที่เราบริโภค และวิธีการผลิตกำลัง “สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อโลกและสุขภาพของเรา และมีส่วนสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันดับสองรองจากอุตสาหกรรมพลังงาน”
รายงานของ Dimbleby เป็นตัวอย่างหนึ่งของการส่งสัญญาณเตือนภัยเมื่อพูดถึงระบบอาหาร องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the UN) ตาม FAO ระบบอาหารใช้พลังงาน 30% ของพลังงานของโลก มันเสริมว่า “ระบบอาหารสมัยใหม่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นอย่างมาก”
CNBC จึงได้พิจารณาแนวคิดและแนวความคิดบางอย่างที่อาจเปลี่ยนวิธีที่เราคิดเกี่ยวกับการเกษตร
เติบโตในเมือง โดยทั่วโลก แนวคิดและเทคนิคที่น่าสนใจเกี่ยวกับการผลิตอาหารในเมืองกำลังเริ่มได้รับความสนใจ แม้ว่าจะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับวิธีการที่เป็นที่ยอมรับ อาทิ ใช้ไฮโดรโปนิกส์ ซึ่ง Royal Horticultural Society อธิบายว่าเป็น "ศาสตร์แห่งการปลูกพืชโดยไม่ต้องใช้ดิน โดยให้อาหารพืชผักด้วยเกลือแร่ที่ละลายในน้ำ"
ในลอนดอน บริษัทต่างๆ อย่าง Growing Underground ใช้เทคโนโลยี LED และระบบไฮโดรโปนิกส์เพื่อผลิตกรีนที่ความสูง 33 เมตร บริษัทกล่าวว่าพืชผลมีการปลูกตลอดทั้งปีในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมโดยปราศจากยาฆ่าแมลงโดยใช้พลังงานหมุนเวียน หรือ Crate to Plate ซึ่งการดำเนินงานมุ่งเน้นไปที่การปลูกผักกาดหอม สมุนไพร และผักใบเขียวในแนวตั้ง กระบวนการนี้เกิดขึ้นในภาชนะที่มีความยาว 40 ฟุต กว้าง 8 ฟุต และสูง 8.5 ฟุต โดยแนวคิดหลักเบื้องหลังธุรกิจคือการขยายพื้นที่ให้ใหญ่สุดและลดการใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด
อย่าไงรก็ตาม แม้จะมีความตื่นตัวเกี่ยวกับกระแสดังกล่าว แต่ก็ยังมีข้อโต้แย้งที่ต้องมีสำหรับการกลับไปสู่พื้นฐาน ในสหราชอาณาจักร กระแสความนิยมในการจัดสรรที่ดิน ที่ดินว่างเปล่าที่ให้เช่าและใช้เพื่อปลูกพืช ผลไม้ และผัก กำลังเพิ่มขึ้น
เมื่อเดือนกันยายน 2563 Association for Public Service Excellence ได้ดำเนินการสำรวจทางออนไลน์ในหน่วยงานท้องถิ่นในสหราชอาณาจักรพบว่ามีความต้องการที่ดินจัดสรรเพิ่มขึ้น 90% “สิ่งนี้สะท้อนถึงความปรารถนาที่จะเชื่อมต่อกับธรรมชาติอีกครั้งผ่านการเป็นเจ้าของที่ดินจัดสรร” APSE กล่าว “นอกจากนี้ยังอาจสะท้อนถึงความสนใจในการพึ่งพาตนเอง โดยใช้การจัดสรรที่ดินเพื่อปลูกผักและผลไม้ของตนเอง”
หนึ่งในความคิดเห็นที่ส่งถึง CNBC ทางอีเมล โฆษกของ National Allotment Society กล่าวว่าการเช่าพื้นที่จัดสรรจะทำให้เจ้าของที่ดิน "มีโอกาสในการออกกำลังกายเข้าใกล้ธรรมชาติ และปลูกพืชผักตามฤดูกาลด้วยตนเอง"
Nicole Kennard เป็นนักวิจัยระดับปริญญาเอกที่ Grantham Center for Sustainable Futures ของ University of Sheffield ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ CNBC โดยเธอตั้งข้อสังเกตว่าคำว่า "การเกษตรในเมือง" สามารถหมายถึงทุกอย่างตั้งแต่การจัดสรรและสวนในบ้านไปจนถึงสวนชุมชนและฟาร์มในเมือง “เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่อาหารทุกชนิดที่จะผลิตโดยการเกษตรในเมือง แต่สามารถมีบทบาทสำคัญในการให้อาหารแก่ชุมชนท้องถิ่น” เธอกล่าว
การพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการและสถานที่ที่เราผลิตอาหารมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน ขณะที่ภาคธุรกิจ รัฐบาล และประชาชนพยายามหาวิธีสร้างระบบที่ยั่งยืนที่ตอบสนองความต้องการ นอกจากนี้ กระแสนี้ยังกำลังเริ่มสร้างความสนใจในหมู่ชุมชนการลงทุน
เมื่อพูดถึง "Squawk Box Europe" ของ CNBC เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เจสสิก้า อัลส์ฟอร์ด หัวหน้าฝ่ายวิจัยความยั่งยืนระดับโลกของมอร์แกน สแตนลีย์ ได้เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ “อย่างไรก็ตาม ความยั่งยืนที่พูดกันยังครอบคลุมหัวข้อต่างๆ มากมาย” อัลส์ฟอร์ด กล่าว “และเราได้รับคำถามมากมายจากนักลงทุนที่ต้องการขยายขอบเขตการลงทุนเหนือธีม “สีเขียว” หัวข้อที่เกี่ยวข้องอย่างอนาคตของอาหาร หรือความหลากหลายทางชีวภาพ”
สำหรับ Sainsbury ของ Crate to Plate การแบ่งปันความรู้และการทำงานร่วมกันมักจะมีบทบาทสำคัญอย่างมาก ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เขาเน้นถึงความสำคัญของ "การอยู่ร่วมกับการทำฟาร์มแบบดั้งเดิม" “ที่แปลกคือ เรามีเกษตรกรมาเยี่ยมชมไซต์งานเพราะเกษตรกรค่อนข้างสนใจที่จะติดตั้งเทคโนโลยีประเภทนี้ในฟาร์มเพราะมันสามารถเสริมรายได้ของพวกเขาได้”
แหล่งข่าว Technology is shaping the future of food but practices rooted in tradition could still have a role to play โดย CNBC
แปลโดยทีม TradersThailand
