สัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์วูบลงของหุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่เป็นยอดนิยมในวงการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสื่อสารและรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า บริษัทในอุตสาหกรรมอื่นๆ ก็ถูกดึงมูลค่าหุ้นลงด้วย กำไรที่สะสมมาตั้งแต่ต้นปีโดนลบหายไปหมด มีการวิเคราะห์ว่าเหตุมาจากราคาและการผันจากหุ้นไปที่พันธบัตรของรัฐบาลอเมริกัน ความกังวลว่าเงินจะเฟ้อ หุ้นขึ้นเร็วเกินไป การรอคอยเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลซึ่งต้องผ่านหลายด่านของการเมือง ฯลฯ
ในที่สุดข่าวดีก็มาถึง เงินงบประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ประชาชนกว่า 85% จะได้รับเงินช่วยเหลือตามสัดส่วนของรายได้ มาตรการที่กำหนด เงินบางส่วนจะเป็นงบประมาณด่วนเพื่อเปิดโรงเรียนและสถาบันที่จำเป็นต่างๆ รัฐบาลย่อยในระดับรัฐและเมืองจะได้รับเงินงบประมาณสนับสนุน ตลาดหุ้นอเมริกันขานรับด้วยความคึกคัก เพราะจะมีเงินหมุนเวียนอยู่ในกระแสเป็นจำนวนมาก อีกส่วนจากการประเมินสอบถามล่วงหน้า คาดว่าผู้ลงทุนซื้อขายหุ้นรายย่อยโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่ใช้แอพสะดวก โดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม เช่น Robinhood App
วิกฤติกว่าหนึ่งปี ทำให้มีคนหน้าใหม่เข้ามาสู่ตลาดหุ้นเป็นจำนวนหลายล้านคน (JMP Securities ระบุว่าปีที่ผ่านมาในอเมริกามีการเปิดบัญชี Brokerage accounts เพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านบัญชี) บรรยากาศและวัฒนธรรมในการลงทุนในตลาดหุ้นในปัจจุบันแตกต่างจากยุคก่อนโควิด-19 มาก
ดัชนีหุ้นของทุกตลาดหุ้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกตลอดทั้งปี ผมประเมินว่าน่าจะขึ้นอีกประมาณ 8-10% (จากปัจจุบันดาวโจนส์ 32,587) แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างของความผันผวน บางบริษัทขึ้นลงวันละ 10-20% และนี่ไม่ใช่เป็นบริษัทเล็ก แต่เป็นบริษัทใหญ่ระดับต้น
การลงทุนในตลาดหุ้นแบบคลาสสิก ที่กระจายความเสี่ยงออกไปหลายบริษัทและหลายอุตสาหกรรม พิจารณารอบคอบเรื่องราคาหุ้นที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง เพราะโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนในตลาดหุ้นโดยการเดานั้นคงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก
ปริมาณเงินโดยเฉพาะดอลลาร์ที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดโลกในปัจจุบันมีมากจนน่าเป็นห่วง และคาดว่าภายในปีนี้อาจมีงบประมาณโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ทำให้เพิ่มความเสียงเรื่องเงินเฟ้อ
โควิด-19 ยังเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของประชาคมโลก แม้หลายประเทศโดยเฉพาะอเมริกากำลังจะเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ รัฐบาลประกาศชัดเจนว่าเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป ประชาชนชาวอเมริกันทุกคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนจะได้รับการฉีดครบถ้วน
สำหรับเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น ผมมั่นใจว่าจะเข้มแข็งขึ้นตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป เนื่องจากผลพลอยได้ของความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศตะวันตกโดยเฉพาะอเมริกา และยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจเช่นจีน จะส่งผลโดยตรงถึงหลายอุตสาหกรรมเช่นการท่องเที่ยวและการลงทุนข้ามประเทศ ความพร้อมของไทยเรื่องสุขอนามัยสาธารณะ ซึ่งเกิดจากความสามัคคีและเสียสละของชาวไทยในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา
แหล่งข่าว โควิดขาลง หุ้นขาขึ้น : นักลงทุนยุคใหม่, Bangkokbiznews, 16 มี.ค. 2564