ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นจะต้องหลีกเลี่ยงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสู้กับเงินเยนที่อ่อนค่า เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นจะกระทบต่อการบริโภคและอัตราเงินเฟ้อด้านบริการ BOJ สิ้นสุดอัตราดอกเบี้ยติดลบระยะเวลา 8 ปีและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นในเดือนมีนาคม เนื่องจากแนวโน้มว่าค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจะหนุนการบริโภคและรักษาอัตราเงินเฟ้อให้คงอยู่ตามเป้าหมาย 2% ผู้กำหนดนโยบายของ BOJ ได้ส่งสัญญาณถึงโอกาสในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมโดยมองว่าค่าจ้างและการบริโภคที่เพิ่มขึ้นจะเร่งอัตราเงินเฟ้อด้านบริการ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเพิ่มราคาอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อภาคบริการอ่อนตัวลงหลังจากถึงจุดสูงสุดในฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว การบริโภคที่ซบเซากำลังบั่นทอนบริษัทต่างๆจากการขึ้นราคา แม้ว่าเงินเยนที่ตกต่ำในช่วงที่ผ่านมาอาจเริ่มผลักดันราคาสินค้าให้สูงขึ้น แต่ BOJ ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นอัตราจนกว่าอัตราเงินเฟ้อด้านบริการจะเร่งตัวขึ้นเช่นกัน การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วยต้นทุนจะบั่นทอนกำลังซื้อของครัวเรือนและลดการใช้จ่ายด้านบริการ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความพยายามที่จะสร้างอัตราเงินเฟ้อโดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่ง ในขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น เงินเยนที่อ่อนค่าลงได้กลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่น เนื่องจากส่งผลเสียต่อการบริโภคด้วยการผลักดันต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบให้สูงขึ้น
ค่าเงินเยนที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปีเมื่อเร็วๆ นี้กระตุ้นให้เกิดการแทรกแซงค่าเงินโดยทางการญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และสร้างแรงกดดันต่อ BOJ ที่จะยกเลิกนโยบาย คาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวเมื่อวันพุธว่า BOJ อาจดำเนินนโยบายการเงินหากเงินเยนตกต่ำส่งผลกระทบต่อราคาอย่างมีนัยสำคัญ โดยเสนอสัญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันว่าค่าเงินที่ร่วงลงอาจกระตุ้นให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง วาตานาเบะกล่าวว่าในที่สุด BOJ อาจจำเป็นต้องขึ้นต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นเป็น 2% หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ประมาณ 2% ในปี 2568 และ 2569 ตามที่คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน แต่ในระยะสั้นควรมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนครัวเรือนและบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นจากเงินเยนที่อ่อนค่า
แหล่งข่าว BOJ must avoid raising rates to combat weak yen, says ex-c.banker Watanabe โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
