Graham Jenkin CEO ของ CoinList เชื่อว่าจากการทำ BTC ทำจุดสูงสุดใหม่ภายหลังการเปิดตัว ETF bitcoin Futures ในสหรัฐฯ อุปสงค์ของเหรียญเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเชื่อว่าราคาของมันจะแตะ 100,000 ดอลลาร์ภายในต้นปีหน้า โดยราคาล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี (28 ต.ค.) เหรียญย่อตัวลงไปซื้อขายที่ 59,052 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและบริษัทจำนวนหนึ่งมองว่าราคาของเหรียญนั้นน่าจะแตะที่หรือเหนือ 100,000 ดอลลาร์ด้วยซ้ำ สาเหตุมาจากอัตราเงินเฟ้อและการเปิดตัว ETF ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนที่สมบูรณ์แบบเพราะมันกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงสำหรับเงินเฟ้อ
Paul Tudor Jones นักลงทุนมหาเศรษฐี บอกกับ CNBC เมื่อต้นเดือนนี้ว่าเขาชอบที่จะใช้คริปโตเคอเรนซีในการป้องกันความเสี่ยงมากกว่าทองคำ “ฉันคิดว่ามันใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ดีมาก ซึ่งตอนนี้ฉันชอบมากกว่าทองคำ” ขณะเดียวกัน Fidelity Investments ก็มองว่า BTC จะแตะ100,000 ดอลลาร์ แต่จะใช้ระยะเวลานานกว่าที่อื่นๆ คาดการณ์
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ปฏิเสธ Bitcoin อยู่มากมาย Jamie Dimon ซีอีโอของ JP Morgan Chase เรียก Bitcoin ว่า "ไร้ค่า" โดยเขาเชื่อว่าสกุลเงินนี้ "ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง" เขายังเสริมว่า “ฉันเชื่อเสมอว่ามันจะถูกทำให้ผิดกฎหมายอย่างเช่นในจีนที่ทำแล้ว ฉันคิดว่ามันเป็นทองคำของคนโง่ ”
นอกจากนี้ United Wholesale Mortgage ซึ่งเป็นผู้ให้กู้จำนองรายใหญ่เป็นอันดับสองในสหรัฐได้ประกาศยกเลิกแผนการที่จะรับการชำระเงินเป็น bitcoin โดยอ้างถึง “ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ"
แหล่งข่าว CoinList CEO sees bitcoin hitting $100,000 by the start of next year โดย CNBC
แปลโดยทีม TradersThailand