Account Balance หรือ Balance คือ ยอดเงินเริ่มแรกในบัญชีคุณ มักเป็นจำนวนเงินสดในบัญชี
Margin (หรือ Used margin / Required Margin) คือ จำนวนเงินที่จำเป็นเพื่อเปิดการซื้อขายแบบมีเลเวอเรจ เมื่อซื้อขายในตลาด FOREX คุณวางเงินทุนเพียงเล็กน้อยเพื่อเปิดหรือรักษาตำแหน่งใหม่ไว้ก็ได้ เงินทุนนี้ก็คือ margin นั่นเอง ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างมูลค่าเต็มจำนวนของตำแหน่งซื้อขายของคุณและมูลค่าเงินทุนที่นายหน้าให้ยืมมาใช้
อาจถือได้ว่า margin เป็นเงินฝากที่แสดงถึงหลักประกันที่จำเป็นในการเปิดสถานะและรักษาสถานะนั้นไว้ จำนวน margin ที่จำเป็นนั้นมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับทั้ง instrument ขนาดของตำแหน่งซื้อขาย และเลเวอเรจ
เรามาดูกันว่าจำนวน margin ที่จำเป็นขึ้นอยู่กับเลเวอเรจที่เราเลือกอย่างไร:
* เลเวอเรจสูงขึ้น→ใช้เงินทุนในฐานะ margin น้อยลง
* เลเวอเรจต่ำลง→ต้องใช้เงินทุนในฐานะ margin เพิ่มขึ้น
เมื่อคุณเปิดสถานะการซื้อหรือขายแล้ว หากการซื้อขายเริ่มทำให้คุณสูญเสียเงิน เงินสดในบัญชีของคุณอาจมีไม่พอที่จะทำให้การซื้อขายอยู่ในสถานะเปิดอีกต่อไป ซึ่งในกรณีนี้ นายหน้าของคุณจะแจ้งเตือนให้ฝากเงินสดเพิ่มในบัญชีเพื่อให้ยอดเงินมีมากพอถึงระดับ margin ของคุณ (ทุนที่เราฝากเพิ่มไปนี้เรียกว่า margin เพื่อการบำรุง)
คุณใช้สูตรนี้ในการคำนวณได้:
มาดูตัวอย่างของหนึ่งล็อต โดยใช้เลเวอเรจ 1:500 กัน: 100,000 / 500 = 200 ยูโร
หากสกุลเงินของบัญชีคุณคือ USD (ราคา EURUSD ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 1.11413): 100,000 / 500 X 1.11413 = $222.826
สินทรัพย์อื่นมีเลเวอเรจสูงสุดคงที่ซึ่งแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับประเภทสินทรัพย์
สำหรับการคำนวณ margin ที่จำเป็นสำหรับสินทรัพย์อื่นๆ นั้น คุณใช้สูตรนี้ในการคำนวณได้:
นี่คือตัวอย่างของการคำนวณ margin สำหรับหนึ่งล็อตของ "ทองคำ’’ ซึ่งตีราคาในสกุลเงิน USD โดยใช้เลเวอเรจ 1:20 (หนึ่งล็อตของทองคำ = 100ออนซ์ และ ราคาตอนนี้อยู่ที่ 1511.73 ดอลลาร์)
***โปรดทราบว่าตัวเลข margin ที่แสดงในบัญชีของคุณแสดงถึง margin ที่ใช้ทั้งหมดในการซื้อขายแบบเปิด
"Free Margin" เป็นยอดเงินที่เหลือในบัญชี ที่สามารถใช้เพื่อเปิดออร์เดอร์ซื้อขายใหม่ หรือถอนได้ ซึ่งมีมูลค่าเป็นจำนวนเงินในบัญชีซื้อขายที่ไม่ได้ใช้เพื่อทำให้สถานะการซื้อขายมั่งคง และเป็นมูลค่าที่คุณมีอยู่ในขณะนี้ที่ใช้ในการเปิดซื้อขายใหม่ได้
ดังนั้น หากมีการซื้อขายแบบเปิดอยู่ ตัวเลขเหล่านี้จะแตกต่างกันเนื่องจาก equity จะผันผวน ในขณะที่ยอดคงเหลือจะมีค่าคงที่จนกว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้น เมื่อไม่มีการซื้อขายแบบเปิดอยู่ equity จะมีค่าเท่ากับยอดคงเหลือของคุณ
ระดับ margin (Margin Level) คือ อัตราส่วนของจำนวน equity ที่เปรียบเทียบกับ margin ที่ใช้ โดยค่านี้แสดงเป็น % และคำนวณได้ด้วยสูตร:
"Stop Out" เป็นการบังคับปิดสถานะของผู้ซื้อขายโดยอัตโนมัติหาก equity ของบัญชีซื้อขายนั้นมีระดับต่ำกว่าที่กำหนด (เป็น% คงที่) ซึ่งระดับนี้ต่างกันไปตามแต่ละแพลตฟอร์ม โปรดดูตารางเทียบแพลตฟอร์มหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ลองดูตัวอย่างการใช้ Stop Out ที่ระดับ 50% กัน ซึ่งในกรณีนี้ เมื่อ equity ของคุณมีมูลค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของ margin มาร์จิ้นที่ใช้ไป สถานะจะถูกหยุด ดังนั้น หาก margin ที่ถูกใช้มีมูลค่า 1000 ยูโร จะเกิดการ Stop out เมื่อ equity ตกลงไปที่ 500 ยูโร
Stop Out ช่วยป้องกันบัญชีไม่ให้มีมูลค่าตกลงไปถึงจุดติดลบ แต่การตกลงไปถึงจุดติดลบก็เกิดขึ้นได้หากตลาดเคลื่อนไหวเร็วมาก หรือตลาดมีช่องว่างอยู่
Margin Call หมายถึง สัญญาณเตือนผู้ซื้อขายว่ามูลค่าบัญชีได้ตกลงไปถึงจุดต่ำสุดที่ยังทำให้ตำแหน่งซื้อขายมีสถานะเปิดอยู่ได้
หากมีการแจ้งเตือน margin call นี้ ผู้ซื้อขายอาจต้องเพิ่มเงินทุนเข้าไปที่บัญชี หากเติมเงินไปแล้ว สถานะจะคงอยู่ที่เปิด และหากไม่เติมเงิน สถานะก็จะถูกปิด (ปิดเพื่อลดปริมาณ margin บำรุง)
ศัพท์ margin call มาจากการที่โบรกเกอร์โทรศัพท์หาลูกค้าเพื่อแจ้งเตือนเรื่องบัญชีขาดดุล ณ ปัจจุบัน margin call ส่งทางอีเมล
“ระดับ Margin Call” กับ “Margin Call”
ผู้ซื้อขายมักสับสนระหว่าง Margin Call Level กับ Margin Call
- ระดับ Margin Call คือ ค่าพื้นฐานที่โบรกเกอร์ของคุณตั้งไว้ซึ่งจะทำให้เกิด Margin Call โดยระดับนี้มีมูลค่าเฉพาะเจาะจงเป็น % ตัวอย่างเช่น ระดับ Margin ที่ 100%
- หาก Margin Call เกิดขึ้น โบรกเกอร์ต้องลงมือทำอะไรบางอย่าง เช่น ส่งคำเตือนหาคุณ ซึ่ง Margin Call เกิดขึ้นเมื่อระดับ Margin ตกลงต่ำกว่ามูลค่าหนึ่งๆ เท่านั้น และเราเรียกมูลค่านี้ว่า “ระดับ Margin Call”
มาทบทวนความหมายของศัพท์บัญชีซื้อขายกัน:
- ‘Margin’ คือทุนที่จำเป็นในการวางขาย - ‘Margin ฟรี’ คือ จำนวนที่คุณมีอยู่แบบฟรีๆ สำหรับการซื้อขาย
- ‘Equity’ คือ ยอดคงเหลือทั้งหมดของบัญชีคุณ โดยรวมถึงมูลค่า PnL ที่ยังไม่รับรู้ด้วย
- ‘ระดับ Margin’ มีมูลค่าเป็น % โดยแสดงถึงจำนวน equity ที่คุณมีเทียบกับจำนวน margin ที่ใช้
- ‘Stop Out’ เกิดขึ้นที่ระดับ margin หนึ่งๆ และจะเริ่มทำการปิดการซื้อขาย (ทั้งหมดหรือบางส่วน) เพื่อไม่ให้เสียกำไรมากไปกว่าตอนปัจจุบัน
ข้อมูลจาก Tradersthailand
Margin (หรือ Used margin / Required Margin) คือ จำนวนเงินที่จำเป็นเพื่อเปิดการซื้อขายแบบมีเลเวอเรจ เมื่อซื้อขายในตลาด FOREX คุณวางเงินทุนเพียงเล็กน้อยเพื่อเปิดหรือรักษาตำแหน่งใหม่ไว้ก็ได้ เงินทุนนี้ก็คือ margin นั่นเอง ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างมูลค่าเต็มจำนวนของตำแหน่งซื้อขายของคุณและมูลค่าเงินทุนที่นายหน้าให้ยืมมาใช้
อาจถือได้ว่า margin เป็นเงินฝากที่แสดงถึงหลักประกันที่จำเป็นในการเปิดสถานะและรักษาสถานะนั้นไว้ จำนวน margin ที่จำเป็นนั้นมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับทั้ง instrument ขนาดของตำแหน่งซื้อขาย และเลเวอเรจ
เรามาดูกันว่าจำนวน margin ที่จำเป็นขึ้นอยู่กับเลเวอเรจที่เราเลือกอย่างไร:
* เลเวอเรจสูงขึ้น→ใช้เงินทุนในฐานะ margin น้อยลง
* เลเวอเรจต่ำลง→ต้องใช้เงินทุนในฐานะ margin เพิ่มขึ้น
เมื่อคุณเปิดสถานะการซื้อหรือขายแล้ว หากการซื้อขายเริ่มทำให้คุณสูญเสียเงิน เงินสดในบัญชีของคุณอาจมีไม่พอที่จะทำให้การซื้อขายอยู่ในสถานะเปิดอีกต่อไป ซึ่งในกรณีนี้ นายหน้าของคุณจะแจ้งเตือนให้ฝากเงินสดเพิ่มในบัญชีเพื่อให้ยอดเงินมีมากพอถึงระดับ margin ของคุณ (ทุนที่เราฝากเพิ่มไปนี้เรียกว่า margin เพื่อการบำรุง)
คุณใช้สูตรนี้ในการคำนวณได้:
จำนวนหน่วยของขนาดการซื้อขาย / เลเวอเรจ = margin ของเงินฐาน
ดังนั้น หากคุณอยากซื้อล็อตแบบพื้นฐาน (100,000 ยูโร) ของคู่สกุล EUR/USD โดยไม่ใช้เลเวอเรจใดๆ (1:1) คุณต้องมีเงิน 100,000 ยูโรในบัญชีของคุณ
มาดูตัวอย่างของหนึ่งล็อต โดยใช้เลเวอเรจ 1:500 กัน: 100,000 / 500 = 200 ยูโร
หากสกุลเงินของบัญชีคุณคือ USD (ราคา EURUSD ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 1.11413): 100,000 / 500 X 1.11413 = $222.826
สินทรัพย์อื่นมีเลเวอเรจสูงสุดคงที่ซึ่งแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับประเภทสินทรัพย์
สำหรับการคำนวณ margin ที่จำเป็นสำหรับสินทรัพย์อื่นๆ นั้น คุณใช้สูตรนี้ในการคำนวณได้:
จำนวนหน่วยของขนาดการซื้อขาย / เลเวอเรจ X ราคาตลาด = margin ของเงินฐานของสินทรัพย์
นี่คือตัวอย่างของการคำนวณ margin สำหรับหนึ่งล็อตของ "ทองคำ’’ ซึ่งตีราคาในสกุลเงิน USD โดยใช้เลเวอเรจ 1:20 (หนึ่งล็อตของทองคำ = 100ออนซ์ และ ราคาตอนนี้อยู่ที่ 1511.73 ดอลลาร์)
100 ออนซ์ / 20 X 1511.73 = 7,558.65 ดอลลาร์
***โปรดทราบว่าตัวเลข margin ที่แสดงในบัญชีของคุณแสดงถึง margin ที่ใช้ทั้งหมดในการซื้อขายแบบเปิด
"Free Margin" เป็นยอดเงินที่เหลือในบัญชี ที่สามารถใช้เพื่อเปิดออร์เดอร์ซื้อขายใหม่ หรือถอนได้ ซึ่งมีมูลค่าเป็นจำนวนเงินในบัญชีซื้อขายที่ไม่ได้ใช้เพื่อทำให้สถานะการซื้อขายมั่งคง และเป็นมูลค่าที่คุณมีอยู่ในขณะนี้ที่ใช้ในการเปิดซื้อขายใหม่ได้
Equity - Margin ที่ถูกใช้ = Free Margin
"Equity" คือ ยอดคงเหลือในบัญชีของคุณ บวก (หรือลบ) ด้วย กำไร (หรือขาดทุน) ที่ยังไม่รับรู้จากสถานะเปิดของคุณ:
Equity = ยอดคงเหลือ + กำไร (- ขาดทุน)
ทันทีที่ปิดการซื้อขาย ผลกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่รับรู้จะปรากฎใน "ยอดคงเหลือ" ทันที
ดังนั้น หากมีการซื้อขายแบบเปิดอยู่ ตัวเลขเหล่านี้จะแตกต่างกันเนื่องจาก equity จะผันผวน ในขณะที่ยอดคงเหลือจะมีค่าคงที่จนกว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้น เมื่อไม่มีการซื้อขายแบบเปิดอยู่ equity จะมีค่าเท่ากับยอดคงเหลือของคุณ
ระดับ margin (Margin Level) คือ อัตราส่วนของจำนวน equity ที่เปรียบเทียบกับ margin ที่ใช้ โดยค่านี้แสดงเป็น % และคำนวณได้ด้วยสูตร:
Margin Level (%) = equity / margin X 100
เมื่อระดับ margin ลดลงถึง 100% หรือต่ำกว่านั้น equity ทั้งหมดของบัญชีซื้อขายของคุณจะถูกใช้เป็นหลักประกัน และคุณจะไม่สามารถเปิดสถานะเพิ่มได้อีก ซึ่งจะทำให้เกิด equity ฟรี แบบเป็นลบ
"Stop Out" เป็นการบังคับปิดสถานะของผู้ซื้อขายโดยอัตโนมัติหาก equity ของบัญชีซื้อขายนั้นมีระดับต่ำกว่าที่กำหนด (เป็น% คงที่) ซึ่งระดับนี้ต่างกันไปตามแต่ละแพลตฟอร์ม โปรดดูตารางเทียบแพลตฟอร์มหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ลองดูตัวอย่างการใช้ Stop Out ที่ระดับ 50% กัน ซึ่งในกรณีนี้ เมื่อ equity ของคุณมีมูลค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของ margin มาร์จิ้นที่ใช้ไป สถานะจะถูกหยุด ดังนั้น หาก margin ที่ถูกใช้มีมูลค่า 1000 ยูโร จะเกิดการ Stop out เมื่อ equity ตกลงไปที่ 500 ยูโร
Stop Out ช่วยป้องกันบัญชีไม่ให้มีมูลค่าตกลงไปถึงจุดติดลบ แต่การตกลงไปถึงจุดติดลบก็เกิดขึ้นได้หากตลาดเคลื่อนไหวเร็วมาก หรือตลาดมีช่องว่างอยู่
Margin Call หมายถึง สัญญาณเตือนผู้ซื้อขายว่ามูลค่าบัญชีได้ตกลงไปถึงจุดต่ำสุดที่ยังทำให้ตำแหน่งซื้อขายมีสถานะเปิดอยู่ได้
หากมีการแจ้งเตือน margin call นี้ ผู้ซื้อขายอาจต้องเพิ่มเงินทุนเข้าไปที่บัญชี หากเติมเงินไปแล้ว สถานะจะคงอยู่ที่เปิด และหากไม่เติมเงิน สถานะก็จะถูกปิด (ปิดเพื่อลดปริมาณ margin บำรุง)
ศัพท์ margin call มาจากการที่โบรกเกอร์โทรศัพท์หาลูกค้าเพื่อแจ้งเตือนเรื่องบัญชีขาดดุล ณ ปัจจุบัน margin call ส่งทางอีเมล
“ระดับ Margin Call” กับ “Margin Call”
ผู้ซื้อขายมักสับสนระหว่าง Margin Call Level กับ Margin Call
- ระดับ Margin Call คือ ค่าพื้นฐานที่โบรกเกอร์ของคุณตั้งไว้ซึ่งจะทำให้เกิด Margin Call โดยระดับนี้มีมูลค่าเฉพาะเจาะจงเป็น % ตัวอย่างเช่น ระดับ Margin ที่ 100%
- หาก Margin Call เกิดขึ้น โบรกเกอร์ต้องลงมือทำอะไรบางอย่าง เช่น ส่งคำเตือนหาคุณ ซึ่ง Margin Call เกิดขึ้นเมื่อระดับ Margin ตกลงต่ำกว่ามูลค่าหนึ่งๆ เท่านั้น และเราเรียกมูลค่านี้ว่า “ระดับ Margin Call”
มาทบทวนความหมายของศัพท์บัญชีซื้อขายกัน:
- ‘Margin’ คือทุนที่จำเป็นในการวางขาย - ‘Margin ฟรี’ คือ จำนวนที่คุณมีอยู่แบบฟรีๆ สำหรับการซื้อขาย
- ‘Equity’ คือ ยอดคงเหลือทั้งหมดของบัญชีคุณ โดยรวมถึงมูลค่า PnL ที่ยังไม่รับรู้ด้วย
- ‘ระดับ Margin’ มีมูลค่าเป็น % โดยแสดงถึงจำนวน equity ที่คุณมีเทียบกับจำนวน margin ที่ใช้
- ‘Stop Out’ เกิดขึ้นที่ระดับ margin หนึ่งๆ และจะเริ่มทำการปิดการซื้อขาย (ทั้งหมดหรือบางส่วน) เพื่อไม่ให้เสียกำไรมากไปกว่าตอนปัจจุบัน
ข้อมูลจาก Tradersthailand
Last edited:
